วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557

แบตสำรอง หรือ Power Bank ของง่ายๆ ที่ดูยากๆ ว่าด้วย ชนิตของแบตเตอรี่ และ การชาร์จไฟ

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html
ขออนุญาตเขียนบทความแบบกระชับ สั้นๆ ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย 

Power Bank หรือที่เราเรียกกันว่า "แบตสำรอง" หรือ "แบตเตอรี่สำรอง" ทุกวันนี้ มีขายเกลื่อน แต่มีเสปก หมดเม็ดมาก แล้วควรดูยังไง 

สิ่งแรก ชนิดของ แบตเตอรี่ภายใน ที่ใช้กันอยู่ มี 3 ชนิด (แต่มักไม่บอกกัน)
     - Li-MH นิเกิล เมทัลไฮไดรต์ 
 แบตรสำรอง
        เป็นแบบที่ต้นทุนถูกที่สุด  ด้อยที่สุด. มี memory effect (ทุกครั้งที่ชาร์ต ความจุจะน้อยลงเรื่อยๆ) มีการคายประจุเร็ว แม้ไม่ได้ไช้  แต่จะได้ความจุไฟที่สูง แต่ราคา ก็ถูกมาก ในประสิทธิภาพที่ต่ำ
         ถ้าท่านเจอ Power Bank ที่ไม่ได้บอกว่า เป็น แบตชนิดไหน สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า เป็นประเภทนี้ อย่าหลงไหลกับ พวกความจุสูง ราคาถูก โดยที่ไม่บอกว่าแบตอะไร?

        - Li-ion ลิเธียมไอออน
null
          ไม่มี memory effect เป็นแบบที่ใช้เป็น แบตมือถือนั่นแหละ เพราะมัน เหมาะสมที่สุด แต่..ช้าก่อน .. มันไม่เหมาะ เอามาเป็น Power Bank
ข้อดีของลิเธียมไอออน
- ความหนาแน่นพลังงานสูง
- ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นก่อนใช้ หลังจากเก็บเป็นเวลานาน
- อัตราการคายประจุตัวเองต่ำ
- ไม่ต้องดูแลรักษามาก
ขีดจำกัดของลิเธียมไอออน
- จำต้องใช้วงจรป้องกันแรงดันและกระแสให้อยู่ในเขตปลอดภัย
- มีการเสื่อมอายุตามเวลาแม้ว่าจะไม่มีการใช้งาน
- อัตราการจ่ายกระแสไม่สูงมาก ไม่เหมาะกับงานที่ใช้โหลดหนักๆ
          เนื่องจาก พวกมือถือนั้นออกแบบให้ใช้พลังงานน้อย จึงเหมาะที่จะใช้ Li-ion เพราะ ข้อจำกัดของมันในข้อสุดท้ายนี่เอง 
          แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าเอามาทำ Power Bank ??
          คำตอบคือ มันจะชาร์ตมือถือ หรือ Tablet ได้ช้ามากๆ  คุณคงไม่ชอบ ถ้าการชาร์ตแบตสำรองแบบฉุกเฉินแล้ว ต้องรอนานใช่ไหม ? เพราะ มันจ่ายกระแสได้น้อย 
          พวกความจุสูงสุดติ่ง ประมาณว่า ให้ชาร์ต แท็บเล็ตได้ แต่จ่ายกระแสได้แค่ 1A (1000mA) So what !! เพื่ออะไร = =’  
          ยังมีแบบหมกเม็ดได้อีก เช่น จ่ายได้ 2 ช่อง ระบุว่า ช่องละ 1A  แต่ไม่บอกหรอกนะ ..ว่าถ้ามันจ่ายพร้อมกัน ..มันจะได้ รวมกันได้ 1A ไม่ได้แยกกัน = =’  
          อีกทั้ง Li-ion ที่ชอบเอามาทำ power bank กันนั้น ข้างใน จะเป็นพวก แบต ขนาต 18650 (ทรงกระบอกแบบเดียวกับที่อยู่ในแบตโน๊คบุ๊ค) เพราะหาง่าย ไม่ต้องผลิตไหม่ ทำให้เทอะทะ และ รูปทรง อวกาศ
          ผมว่าพวกท่านเคยเห็น แบบเป็น ก้อนๆ แท๊งค์ๆ อ่ะ = =’ แต่ก็มี power bank บางยี่ห้อ (นิยมซะด้วย) ที่เป็น Li-ion แบบก้อนเหลี่ยมผลิตใหม่ และสเปก ก็จ่ายกระแสได้สูง 2 A ในบางรุ่น ซึ่งมันก็จ่ายได้จริงนั่นแหละ แต่มันก็เป็น Li-ion อยู่ดี เพราะ เกิดจากการนำ Li-ion หลายๆ เซลล์ มาต่อขนานกัน
          ปัญหาคืออะไร ? 
          ปัญหาคือ การทำแบบนั้น ..ได้ กระแสที่จ่ายได้เพิ่มขึ้นมาก็จริง แต่  Li-ion แต่ละเซลล์ มันจะเสื่อมไม่เท่ากัน เพราะมันคนละเซลล์  (ขออนุญาตไม่กล่าวลึกเชิงเทคนิค เดี๋ยวจะเลิกอ่านกันไปซะก่อน)  ความจุที่เหลือ ...มันจะเท่ากับ เซลล์ ที่เสื่อมมากสุด แม้เซลล์อื่นๆ ยังไม่เสื่อม ! มันจะมีปัญหามาก เมื่อ เราใช้หมด 100%  เค้าจึงมันจะแนะนำเราว่า ...อย่าใช้หมด 100% ให้ชาร์ตบ่อยๆ พอเหลือ 20% ให้เลิก ใช้ ให้นำไปชาร์ต 
           แปลว่าเรา ซื้อ แบตมา 100 เราควรใช้มันแค่ 80 .... So what !! เพื่ออะไร = =’

          - Li-po ลิเธียมโพลีเมอร์ 
null
          จริงๆ มันคือแบต Li-ion ชนิดหนึง ที่ ถูกต่อยอด  แต่ต่างจากลิเธียมไอออนธรรมดา ตรงที่ ชนิดของสารอิเลกโตรไลท์
          ลิเธียมโพลีเมอร์ ใช้ฟิล์มคล้ายพลาสติกร่วมกับอิเลกโตรไลท์ชนิดเจล แทนที่จะใช้แผ่นเมมเบรนที่มีรูพรุน เป็นตัวส่งผ่านไอออน
          ลิเธียมโพลีเมอร์ ง่ายต่อการผลิต มีความแข็งแรง ปลอดภัย และบาง สามารถทำให้บางได้ถึง 1 มิลลิเมตร สามารถผลิตให้เป็นรูปทรงต่างๆ ได้ตามความต้องการของการใช้งาน
ข้อดี (ที่เพิ่มขึ้นมาจาก Li-ion) ของลิเธียมโพลีเมอร์
- สามารถทำให้บางมากๆ ได้ เช่น แบตเตอรี่ขนาดบางเท่าบัตรเครดิต
- ไม่จำกัดรูปแบบ ผู้ผลิตไม่จำต้องจำกัดอยู่แค่ขนาดเซลมาตรฐาน ขนาดที่ต้องการสามารถสั่งผลิตได้
- น้ำหนักเบาที่สุดในทุกแบบ ใช้เพียงห่อแล้วซีลแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้ตัวถังโลหะ
- ปลอดภัย รับการชาร์จไฟเกินได้มากกว่า และ โอกาสของการรั่วของอิเลกโตรไลท์ลดลง
- จ่ายกระแสได้สูงมาก สูงกว่าทุกแบบ (ในวงการ RC จึงนิยมมาก)
ขีดจำกัดของลิเธียมโพลีเมอร์
- ความหนาแน่นพลังงานต่ำกว่า และจำนวนรอบการใช้งานที่ต่ำกว่าลิเธียมไอออนธรรมดา (รอบการใช้งานของ ลิเธียมโพลีเมอร์ คือประมาณ 500 ครั้ง 
          (1 ครั้งในที่นี้หมายถึง หมด100% ชาร์เต็ม100% = 1 ครั้ง หมด 50% ขาร์ตเต็ม 100% = 0.5 ครั้ง)
- ราคาแพงกว่า ทุกแบบ
- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อพลังงานที่เก็บได้ มีค่าสูงกว่าลิเธียมไอออน
          มันเป็นแบบที่เหมาะกับ Power Bank มากที่สุด! 
          ในความจุเท่ากัน มันเบากว่า คงไม่มีใครอยากพกของหนัก มันจ่ายกระแสได้สูงกว่า ชาร์ตมือถือ แท็บเล็ตได้เร็วกว่
              แม้ว่ารอบการใช้งานมันจะต่ำกว่า Li-ion แต่มันไม่ต้องขนานหลายเซลล์ มันจึงเสื่อมช้ากว่า ใช้ได้หมด 100% ไม่มีปัญหา

          ในการใช้งาน ที่กระแสเท่ากัน Li-po จะไม่ร้อน (เทียบที่กระแสสูงสุดที่ Li-ion จ่ายได้) แต่กับ Li-ion นั้นมันจะร้อน
           นั้นเป็นสาเหตุของแบตเสื่อม! ที่เป็นสาเหตุว่า ทำไมเวลาคุยโทรศัพท์มือถือนานๆ แล้วมันร้อน..เพราะตอนโทร ใช้กระแสสูงกว่าปกติ และมันป็น Li-ion นั้นเอง

          จึงขอฟังธงว่า Li-po ประสิทธิภาพดีที่สุดถ้าจะนำมาทำ Power Bank 

          เรื่องต่อมา...การชาร์ตไฟเข้า Power Bank 

          การชาร์ตไฟเข้านั้น.. แม้ว่า แบต Li-po นั้นสามารถชาร์ตด้วยกระแสสูงได้ ส่วน Li-ion นั้นต้องควบคุมกระแสชาร์ต อยู่แล้ว เพราะ ระเบิดง่าย..

          แต่การชาร์ต อย่างเร็ว ด้วยกระแสสูง ไม่ว่าแบตชนิดไหน..มันจะร้อน !! และมันคือสาเหตุหลัก ที่ทำให้ แบตเสื่อม!

          Power Bank ที่ดี ต้องมีวงจรจำกัดกระแส ในการชาร์ต เพื่อรักษา และยืดอายุ แบตให้ ไม่เสื่อมเร็ว และอยู่ได้นานๆ

          Power Bank บางยี่ห้อแม้จะเขียนสเปกบอกไว้ แต่มันไม่มีวงจรนั้น ถ้าชาร์ตด้วยที่ชาร์ต 1A มันก็ชาร์ตเต็มๆ 1A ถ้าชาร์ตด้วยที่ชาร์ต 2A มันก็ชาร์ตเต็มๆ 2A !! มันเร็ว แต่มันร้อน และอยู่กับคุณไม่นาน..

          นอกจากวงจรจำกัดกระแส..ชาร์ตเข้าแล้ว แม้ว่ามือถือทั่วไปสมัยนี้ จะมีวงจรจำกัดกระแสชาร์ตของมันเองอยู่ ประมาณ 500-800mA - 1A ในบางรุ่น ส่วนแทปเล็ต ก็ 1.5-2.1A

          แต่ Power Bank ที่ดีต้องมีวงจรควบคุมด้วย..สำหรับพวกที่ใช้ Li-po ต้องมีแน่ๆ ไม่งั้นมันจ่ายระเบิดระเบ้อ

          แต่พวกที่ใช้ Li-MH, Li-ion รุ่นที่ลดต้นทุน มันปล่อยให้หน้าที่นี้เป็นของแบตไปเลย เพราะมันจ่ายได้ไม่มากอยู่แล้ว ซึ่งมันไม่ควร .. แบตจะร้อนมาก เพราะใช้กระแสสูงสุดที่มันทำได้ ต่อเนื่อง

          นอกนั้นก็เป็นรูปลักษณ์ภายนอก และออฟชั่นต่างๆ แล้วแต่จะจินตนาการ

ความรู้เพิ่มเติมเรื่องของการลงทุนการทำกำไรในตลาด Forex

การวิเคราะห์ทางเทคนิค เเละ การหาจังหวะเข้าทำกำไร

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?

ทำไมต้องหา อาชีพเสริม?
อาชีพเสริมจะช่วยให้ชีวิตของคุณ ดีขึ้นได้อย่างไร?
เราจะมาค้นหาคำตอบกันว่า ถ้าคุณคิดจะเริ่มหารายได้เพิ่ม และทำอาชีพเสริม คุณต้องเลือกจากอะไร

ทำไมต้องหา อาชีพเสริม

คุณอาจจะมีข้อสงสัยว่า ทำไมคุณต้องหาอาชีพเสริม ทั้งๆ ที่ ตอนนี้คุณก็ยังอยู่สบาย เงินเดือนที่ได้มาจากงานประจำก็ยังพอใช้ หนี้สินก็ยังไม่มี ครอบครัวก็ไม่มีให้เลี้ยง หรือคุณพ่อคุณแม่ ก็มีสตางค์อยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนให้เราต้อง จ่ายเงินเดือนท่านทุกเดือน แล้วเราจะหาอาชีพเสริม ทำเพื่ออะไร
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทุกคน ไม่ได้มีชีวิตที่ง่ายอย่างนั้น บางคนยังต้องทำ O.T. เพื่อให้เงินเดือนพอใช้จ่าย บางคนมีหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรเงินสดที่ต้องชำระ บางคนมีลูกยังเล็ก หรือเข้าโรงเรียนแล้ว ทำให้ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงรับจำนำ อยู่เป็นประจำ
บางคนพ่อแม่ก็ทำงานไม่ไหวแล้ว และไม่ได้มีมรดกด้วย ซึ่งในฐานะของลูกที่ดี ก็ต้องดูแลปรนนิบัติพ่อแม่ บางคนอาจจะไม่ได้ลำบากก็จริง แต่ก็มองการณ์ไกลไปถึงอนาคต ว่าต้องมีเงินใช้หลังเกษียณ หรือเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงาน และมีครอบครัว

ยิ่งถ้าเรามองไปที่ ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ เช่น ลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า ประชากรในประเทศเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทำ 2 งาน นั่นคือ อาชีพหลัก และอาชีพเสริม เป็นเรื่องปกติ หากคุณได้มีโอกาสไปคุยกับคนเวียดนามแล้ว คุณจะพบว่า แม้แต่วิศวกรที่นั่น ตอนเย็นยังต้องไปขับแท็กซี่เลย เพื่อที่จะได้มีรายได้เสริม ไว้จุนเจือครอบครัว
เพราะค่าจ้างที่เค้าได้รับนั้น ต่ำกว่าในประเทศไทยค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กลับสูงกว่าค่าครองชีพในบ้านเราเสียอีก เพราะสินค้าต่างๆ ที่มีขายอยู่ตามห้างร้านนั้น ล้วนแล้วแต่ส่งมาจากประเทศไทย ทำให้ราคาถูกบวกเพิ่มให้แพงกว่า ของชิ้นเดียวกัน หากซื้อในประเทศไทย
เหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ คนส่วนใหญ่นั้น มองว่าการหาอาชีพเสริมทำนั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตเค้า ในการที่จะช่วยให้เค้าสร้างชีวิตที่มีคุณภาพ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ในวัยเกษียณ และดูแลคนที่ตนเองรักได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

อาชีพเสริมจะช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้อย่างไร


  • มีเงินเพิ่มขึ้น
    เหตุผลหลักเลยที่ทำให้ คุณเริ่มต้นหาอาชีพเสริมทำ คงเดาได้ไม่ยาก นั่นคือ ความต้องการเงินรายได้เพิ่ม เพื่อมาจุนเจือครอบครัว สร้างอนาคต หรือเหตุผลอื่นๆ ที่เป็นทางออกของเงินเพื่อนำไปใช้จ่าย เพื่อซื้อความสุขให้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น นำเงินไปเที่ยวต่างประเทศ หรือถ้าจะให้ตามกระแสสังคมในปัจจุบันหน่อย ก็นำเงินไปศัลยกรรมที่เกาหลีเป็นต้น
  • มีโอกาสพัฒนาอาชีพเสริม ไปเป็นธุรกิจ
    นี่เป็นอีกเหตุผล ที่หลายต่อหลายคนมองถึง ว่าเป็นเป้าหมายของการเริ่มต้นทำอาชีพเสริม อาจจะเพราะว่างานประจำที่ทำอยู่ ได้เงินไม่พอใช้ ไม่คุ้มค่าตัว ทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า แต่ถ้าจะให้ลาออกจากงานมาทำเต็มตัวเลย ก็ดูจะสุ่มเสี่ยงเกินไป เลยลองทำ อาชีพเสริม ควบ คู่ไปกับงานประจำก่อน และเมื่อสร้างรายได้เพิ่มได้ เป็นกอบเป็นกำ ก็อาจจะตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อเปลี่ยนอาชีพเสริม ให้กลายเป็นธุรกิจได้
  • เสริมประสบการณ์
    บางทีการเป็นลูกน้องเค้า นั่งทำงานตามคำสั่งของเจ้านายในงานประจำ อาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่า ตนเองเป็นฟันเฟือง ของธุรกิจคนอื่น ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ความรู้ ความสามารถ อย่างเต็มที่ ในการตัดสินใจทำงาน การทำอาชีพเสริม ทำให้เรามีโอกาสได้ “ปล่อยของ” หรือแสดงความรู้ ความสามารถ ที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ในที่ทำงาน ประสบการณ์ที่ได้รับ จากอาชีพเสริมนั้น เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ทีเดียว
  • แรงจูงใจอื่นๆ
    บางครั้ง คนที่เลือกทำอาชีพเสริมบางอย่าง ก็อาจจะมีแรงจูงใจอื่นๆ เช่น เลือกไปช่วยงาน NGO เพราะว่าอยากช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อเติมเต็มความต้องการส่วนตัว หรือขายบัตรเครดิต เพราะต้องการไปเที่ยวต่างประเทศฟรี ตามโปรแกรมกระตุ้นการหาลูกค้าของบริษัทเจ้าของบัตร เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ก็เป็นเหตุผลที่น่าชื่นชม เช่นกัน เพราะเลือกทำ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน และพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้

ปัจจัยที่ใช้ในการเลือก อาชีพเสริม ที่เหมาะกับตัวคุณ

เมื่อเราเล็งเห็นแล้วว่า ตัวเรานั้น จำเป็นจะต้องหาอาชีพเสริมทำ มันก็จะมีคำถามต่อไป ที่เราจะต้องถามตัวเองว่า แล้วเราจะเลือกทำอะไรดี ที่เหมาะกับตัวเราที่สุด และจะใช้ปัจจัยอะไรในการเลือก ตรงส่วนนี้ จะนำเสนอปัจจัยเบื้องต้น ในการเลือกอาชีพเสริม 4 ข้อ ที่จะทำให้คุณได้ อาชีพเสริมที่หมาะกับตัวคุณ
1. เงินลงทุน
“Money is only a tool. It will take you wherever you wish, but it will not replace you as the driver.”
Ayn Rand
“เงินมันก็เป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น มันสามารถนำพาคุณ ไปในทุกที่ๆ คุณต้องการ แต่มันไม่สามารถทดแทนตัวคุณ ซึ่งเป็นคนขับเคลื่อนได้” เป็นคำพูดของ Ayn Rand กวี และนักปรัชญา ชาวอเมริกัน
ถ้าเรามีเงินอยู่ในกระเป๋า หลักหมื่นบาท เราคงไม่ทำเกินตัวไปเลือกอาชีพเสริม ที่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุน หลักล้าน เพื่อเบียดเบียนตัวเอง ให้ต้องกระเบียดกระเสียน ใช้จ่ายอย่างประหยัด มากยิ่งขึันไปอีก อย่างแน่นอน เราจึงจำเป็นต้องเลือกอาชีพเสริม ที่ใช้เงินลงทุน เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า ถ้าเรามีเงินมากกว่านี้แล้ว จะเปลี่ยนไปทำที่ต้องใช้เงินมาก ก็ยังไม่สาย ถ้าไม่มีเงินลงทุนจริงๆ การเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ไม่เลว และความเสี่ยงต่ำเช่นเดียวกัน
2. ช่วงเวลาที่ใช้
“Until you value yourself, you won’t value your time. Until you value your time, you will not do anything with it.”
M. Scott Peck
“จนกว่าคุณจะประเมินคุณค่าของตนเอง คุณยังไม่ประเมินคุณค่าของเวลา จนกว่าคุณจะประเมินคุณค่าของเวลา คุณยังไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรเลย” เป็นคำพูดของ M. Scott Peck หมอ และนักจิตวิทยา ชาวอเมริกัน
อาชีพเสริมที่คุณเลือกนั้น จำเป็นต้องที่จะต้องลงตัว กับงานประจำ และเวลาที่คุณให้กับครอบครัว รวมถึงสุขภาพของคุณด้วย มันคงไม่ดีแน่ ถ้าทำอาชีพเสริมโดยเบียดบังเวลาทำงาน สุดท้ายโดนเจ้านายให้ออกจากงาน หรือทำอาชีพเสริม จนต้องเลิกกับแฟน หรือร่างกายทรุดโทรม ไม่ได้พักผ่อน
3. เนื้องาน
“A business that makes nothing but money is a poor business.”
Henry Ford
“ธุรกิจที่ทำเงินอย่างเดียว เป็นธุรกิจชั้นเลว” เป็นคำพูดของ Henry Ford นักธุรกิจ ผู้ก่อตั้งบริษัท Ford Corporation ชาวอเมริกัน
ถ้างานประจำที่ต้องทำ ทำให้คุณห่อเหี่ยว และรู้สึกไร้ค่าแล้ว ทำไมยังต้องหาอาชีพเสริม ที่ทำร้ายจิตใจตัวคุณเองอีก คุณควรจะหาอะไรทำที่มัน ช่วยจรรโลงจิตใจคุณ เติมเต็มชีวิตของคุณ ให้คุณได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะคุณจะทำมันได้ยอดเยี่ยม และทุกคนจะต้องชอบมัน
4. แรงบันดาลใจอื่นๆ
“Inspiration exists, but it has to find us working.”
Pablo Picasso
“แรงบันดาลใจมันมีอยู่ และมันควรจะอยู่ในงานของเรา” เป็นคำพูดของ Pablo Picasso จิตรกรเอกของโลก ชาวสเปน
อาชีพเสริม บางอย่าง อาจจะไม่ได้เติมเต็มคุณ ในแง่ของเงินทองที่ได้รับ แต่คุณจะได้รับอย่างอื่นมาแทน เช่น ประสบการณ์ สิ่งของแลกเปลี่ยนอย่างการไปเที่ยวต่างประเทศ หรือการได้ช่วยเหลือคนอื่น ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เติมเต็มคุณได้เช่นกัน

ความรู้เพิ่มเติมเรื่องของการลงทุนการทำกำไรในตลาด Forex

การวิเคราะห์ทางเทคนิค เเละ การหาจังหวะเข้าทำกำไร

ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?

คุณอาจจะมีข้อสงสัยว่า ทำไมคุณถึงต้องทำธุรกิจส่วนตัว ทั้งๆที่ คุณก็มีงานประจำที่มั่นคง และได้รับเงินเดือนอยู่ทุกเดือน ด้วยความแน่นอนอยู่แล้ว
หรือคุณอาจจะมีรายได้จากอาชีพอิสระ ที่คุณทำอยู่ อย่างเป็นกอบเป็นกำ และก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเริ่มต้น ในสิ่งที่เรียกว่า “ธุรกิจ” เลย
ทำไมถึงต้องเอาหน้าที่การงานที่ดี หรือเวลาที่คุณใช้ไปกับอาชีพอิสระของคุณ มาเริ่มสร้างธุรกิจของคุณเองด้วย เหตุผลสำคัญว่าทำไมคุณจำเป็นต้องทำธุรกิจส่วนตัวมีอยู่ 4 เหตุผลด้วยกัน คือ
  • งานประจำที่มั่นคงนั้น อาจจะไม่ได้มีอยู่จริงก็ได้ คุณจะเห็นว่าเมื่อเศรษฐกิจซบเซา บริษัทห้างร้านกำไรลดลง ถึงขั้นขาดทุน หรือเจ๊งและเลิกกิจการไป พนักงานมากมายต่างถูกปลดออกจากงาน และยากที่จะหางานใหม่ ทำให้ต้องเดินเตะฝุ่นเป็นปีเลยทีเดียว
  • งานประจำ และอาชีพอิสระ ไม่ได้อยู่กับเราตอนป่วย ถ้าคุณทำงานประจำ กฎหมายอาจจะยังบังคับ ให้บริษัทจ่ายเงินเดือนให้คุณ เมื่อคุณป่วย 1 เดือนเต็มๆ ทั้งนี้ หากคุณป่วยเกิน 1 เดือน บริษัทก็คงไม่ใจดีจ่ายเงินเดือนให้คุณฟรีๆต่อไปเรื่อยๆอย่างแน่นอน และถ้าคุณทำงานอิสระ มันชัดเจนมากที่ รายได้ของคุณจะหายไป ทันทีที่คุณทำงานให้ลูกค้าไม่ได้
  • งานประจำ มีความไม่แน่นอน เรื่องเจ้านายสูง คนส่วน ใหญ่คิดว่า แค่ได้ทำงานประจำที่ตัวเองชอบ ก็พอแล้วมีความสุขแล้ว แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะเจ้านายมีผลมาก ต่อความสุขในการทำงาน วันนี้คุณอาจจะโชคดี มีเจ้านายที่คุยแล้ว Click ทำงานเข้ากับคุณได้ดี แต่มันไม่ได้การันตีว่า เจ้านายคุณจะไม่ย้ายไปที่อื่น วันดีคืนดี เจ้านายที่มาใหม่ของคุณ อาจจะทำให้คุณเกลียด ในงานที่คุณเคยรักไปเลยก็ได้
  • งานประจำ และอาชีพอิสระที่คุณรัก อาจจะทำเงินให้คุณได้ไม่พอ บางคนอาจจะรู้สึกโชคไม่ดี ที่ดันไปชอบในสิ่งที่ทำแล้วได้เงินน้อย เงินเดือน หรือค่าจ้างที่ได้มา ต้องใช้แบบเดือนชนเดือน ทั้งๆที่ ผลงานของคุณก็ดีมาก ทำเงินให้กับเจ้าของบริษัท หรือลูกค้าของคุณมากมาย อาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญ บวกกับความรักในสิ่งที่คุณทำ บวกกับ Idea นิดหน่อย เอามาใช้สร้างธุรกิจส่วนตัวของคุณเอง ที่จะทำเงินให้คุณได้เป็นกอบเป็นกำ

 

ความรู้เพิ่มเติมเรื่องของการลงทุนการทำกำไรในตลาด Forex

การวิเคราะห์ทางเทคนิค เเละ การหาจังหวะเข้าทำกำไร

รวมวิธีหารายได้เสริมทางอินเตอร์เน็ต

      สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะมานำเสนอวิธีหารายได้เสริมทางอินเตอร์เน็ตฟรีๆทางทีแท้จริง การที่เราจะหารายได้ทางอินเตอร์เน็ตมีจริงแต่มันก็ต้องใช้ความขยันถึงจะ ประสบความสำเร้จ ผมจะขอนำเสนอ 5 วิธีการหารายได้ทางอินเตอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องลงทุนใดๆทั้งสิ้น นองจากเวลา และความขยัน วิธีเหล่านี้ไม่ได้โกหกหลอกหลวงอะไรทั้งสิ้น เป็นวิธีที่ถูกต้องและได้เงินจริง เว็บไซต์นี้เป็นเพียงแค่ตัวชี้แนะนำทาง เท่านั้นและในอณาคตอาจจะอัพเดตเพิ่มวิธีหารายได้ต่างๆที่น่าสนใจ และไม่หลอกหลวง

วิธีที่ 1: เปิดบล็อค สร้างเว็บไซต์
สมัยนี้ใครๆก็สามารถที่จะสร้างบล็อคหรือเว็บไซต์'ง่ายนิดเดียว วิธีนี้เป็นวิธีที่กำลังนิยมมาก ก่อนสร้างเราก็ต้องเรื่องหรือหัวข้อที่จะทำในเว็บไซต์ อาจจะเป็นหัวข้อที่เราสนใจ หรือหัวที่คนอื่นนิยมสนใจ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับ เกมส์ เพลง หนัง รีวิว ต่างๆพวกนี้ เมื่อหาหัวข้อที่เราต้องการ เราก็เปิดบล็อค หรือสร้างเว็บเอง แล้วเอาหาโฮสติงสมัยนี้ฟรีมากมายเต็มไปหมด สิ่งที่เราต้องจำไว้ คือ อัพเดตเว็บให้บ่อยๆ แล้วพยายามหาที่โปรโหมด เพื่อที่จะหาจุดสนใจให้คนมาเยือนเว็บของเรา แล้วสิ่งที่จะช่วยทำรายได้ก้คือ google adsence ก็คือโฆษนาที่นำมาแปะเว็บไซต์เรา แล้วพอมีคนคลิกลิงค์แล้วก็ได้เงิน การทำรายได้นี้อาศัยจำนวนคนเข้าเว็บครับ แรกๆอาจจะน้อย แต่พอเว็บเราเริ่มดังมาก คนเข้ายิ่งมากโอกาศคลิกมากเงินก็ตามครับ วิธีนี้อาจจะใช้เวลาหน่อย แต่ถ้าเราพยายามก็จะประสบความสำเร็จครับ

วิธีที่2 : ออกแบบดีไซน์ทางเน็ต

หลายคนสมัยนี้มีความสามารถเยอะเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ถ้าเก่งเรื่องการดีไซน์ ก็สามารถหารายได้เช่นกัน โดยการออกแบบ logo ต่างๆครับ ถ้าไม่ค่อยเก่งหรือไม่รู้เลย Google ช่วยคุณได้ เดียวนี้เว็บสอนอะไรต่างๆนาๆ มีครบบนอินเตอร์เน็ต เข้าไปหาเรียนรู้หัดทำ วิธีนี้หาคังค์ได้ดีครับ ผมทำมาแล้ว หายังไง? ง่ายครับ มีเว็บมากมายที่ต้องการนักดีไซน์ออกแบบโลโก้ ให้ธุรกิหรือสินค้าครับ มีเว็บเปิดบริการให้คนเหล่านี้เข้ามาแล้ว โพสว่าเข้าต้องการโลโก้แบบไหน พร้อมบอกราคาแล้วเราก็สร้างแล้วโพสไห้เข้าดู แต่ข้อเสียคือมีการแข่งขันครับ เพราะคนอื่นก็เข้ามาโพสเช่นกัน แต่เงินก็ได้ไม่น้อยนะครับ อย่างตำประมาณ 3000 บาท ต่อโลโก้เลยนะครับ วิธีนี้ผมเคยทำและเคยได้ครับ เว็บที่ผมใช้ก็ 99designs.com จุดเสียคือเป็นภาษาอังกฎษครับ แต่ถ้าเราเอาวิธีนี้ผสมกับวิธีที่ 1 จะดีมากครับเลยครับ สร้างเว็บไซต์ตัวเอง รับออกแบบโลโก้ เป็นอีกวิธีที่ดีครับ

วิธีที่3 : ขายของทาง e-bay
ขญะนี้การขายของทาง e-bay กำลังดังทั่วโลกครับ ถึงในไทยอาจจะยังไม่เท่าไร แต่ในอนาคตก็จะเริ่มเป็นที่นิยมขึ้นแน่นอนครับ อาจจะขายของที่ไม่ใช้ตามบ้านก็ขายได้ครับ ผมก็ทำมาแล้ว อาทิตย์เดียวก็ขายได้แล้วครับ โมเดมเก่า 2 ตัวของผม ผมเชื่อว่าถ้าเริ่มเปิดธุรกิจเล็กๆขายทางอีเบย์ คงจะดีมากครับ ถึงจะยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่ถ้าเราเริ่มก่อนคนอื่น แล้วพอเริ่มนิยม เราจะนำหน้าคนอื่นหมด ทำให้ของเรามีชื่อเสียงมานาน อันนี้เป็นการลงทุนที่ดีอีกทางครับ

วิธีที่4 : นักลงทุน Forex
ตอนแรกนึกว่าจะเอามาแนะนำดีไหม เนื่องจากมันอาจจะยากหน่อย แต่คิดอีกทีอาจจะมีคนสนใจ วิธีนี้เป็นวิธีที่ต้องลงทุน และอาจจะไม่ใช้สำหรับทุกคน Forex คือ อัตราการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เราต้องวิเคราะห์ตลาด แล้วดูว่ามันจะขึ้นหรือลง แล้วเราก็ลงทุนตามที่เราคิดไว้ อันนี้เป็นเพียงอธิบายสั่นๆง่ายๆ วิธีนี้ต้องใช้เวลาเรียนรู้ เทคนิคเกี่ยวกับ Forex เยอะครับ แต่จุดดีเราสามารถใช้เงินปลอมไว้หัดได้ครับ แล้วดูว่าเราทำได้หรือปล่าวแล้วก็ลองดูว่าเราผิดตรงไหนแล้วแก้ไข ซื้อหนังสือมาอ่าน พอเห็นเราเริ่มได้กำไร ก็เอาเงินจริงมาลงทุน วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน แต่ถ้าสนใจมากผมแนะนำให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วลองอ่านดูครับ ที่นี่ครับ http://lenhune.blogspot.com/2013/08/forex_17.html

วิธีที่5 : ขายรูปบนอินเตอร์เน็ต!
มีกล้องถายรูปดีๆไหม ถ้ามีก็สามารถใช้หารายได้เสริมเช่กันครับ เดียวนี้เริ่มจะนิยมด้วยครับ ง่ายๆครับ อาจจะเรียนรู้เทคนิคการถ่ายสักนิด ก็ไปหาถ่ายรูปอะไรที่น่าสน อาจจะเป็นนํ้าตก หรือดอกไม้ อะไรก็ได้ครับ โดยเฉพราะถ้าเป็นคนชอบเที่ยว วิธีดีด้วยครับเนื่องจากเราอยู่ในประเทศไทย เป็นที่ท่องเที่ยวอันดันดับต้นๆของโลกเลยครับ ถ้าถามใครจะมาบ้าซื้อภาพ ขอบอกครับเยอะแยะ ส่วนใหญ่เพื่อใช้ทำเว็บครับ ตอนนี้มีหลายเว็บบริการให้คนถ่ายภาพแล้วมาขายบน เว็บของเข้าซึ้งจะมีคนต้องการภาพมาหาซื้อภาพครับ วิธีนี้ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลยครับ ไปไหนมาไหนหาอะไรน่าสนใจถ่าย อัพเข้าเว็บตั้งราคาแค่นี้เองครับ ไม่เสียหายอะไรครับ

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

4G ในอาเซียน ใครนำหน้าใคร

http://lenhune.blogspot.com/2013/08/blog-post.html
ปัจจุบันประเทศที่มี 4G ไม่กี่ประเทศ แต่คุณภาพล่ะ?

บรูไน
จัดเป็นประเทศที่มีประชากรต่ำกว่า 5แสนคนแต่กลับมีเทคโนโลยี 4G ใช้ในประเทศแล้ว โดยผู้ให้บริการรายใหญ่ 1ใน 2รายคือ DST กำลังเปิดให้บริการอยู่ ซึ่งในอนาคตยังไม่แน่ว่าบริษัท B-Mobile จะเปิดให้บริการ 4G เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี 4G เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนที่ผ่านมา จึงยังไม่มีข้อมูลว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่เปลี่ยนใจจาก 3G มาเป็น 4G (อ้างอิงข้อมูลวันที่ 11 Sep 2013)


กัมพูชา
สถานการณ์ล่าสุดคือบริษัทโทรคมนาคม Emaxx และ Xinwei Technologies สามารถประมูลสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาได้เรียกร้อยตั้งแต่ Aug 2011และแม้บริษัท Purewave คู่สัญญาของ Emaxx ที่รับผิดชอบในการขยายเครือข่ายสัญญาณ 4G ให้แก่บริษัทจะระบุว่าภายในปี 2012จะมี 25เมืองในกัมพูชาสามารถใช้ 4G ได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างชัดเจน มีเพียงหน้าเวบของ Emaxx ที่ระบุว่ามีการเปิดให้ใช้งาน 4G อย่างเป็นทางการแล้ว

อินโดนีเซีย
สองบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซีย Telkomsel และ XL Axiata ทดลองการใช้ 4G ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC Summit ตั้งแต่เดือน Oct 2013ที่บาหลี โดยเปิดให้ทดลองตามสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเช่น สนามบิน หอประชุม ศูนย์ประชุมนานาชาติบาหลี โรงแรมโซฟิเทล ทางด่วนบางสายบนบาหลี และพื้นที่ละแวกใกล้เคียง

สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในจาการ์ต้า โบกอร์ เดโปะก์ ทันเกอรัง และเบกาซี สามารถเลือกใช้บริการ 4G ได้แล้วโดยมาในรูปแบบของเครื่องมือที่เรียกว่า Bolt ซึ่งถูกพัฒนาโดย Internux ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ ทั้งนี้ เจ้า Bolt ดังกล่าวทำงานได้เหมือน wifi hotspot หรือ power bank ถือเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ทำช่วยให้ผู้ใช้ต่อ 4G บนมือถือได้

ขณะที่บริษัท Indosat ซึ่งได้รับสิทธิสัมปทานจากรัฐบาลเมื่อ Sep ปีที่แล้วกำลังเริ่มพัฒนาโครงข่ายอย่างแข็งขัน ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าอินโดนีเซียจะมี 4G ใช้ในเร็ววัน (อ้างอิงข้อมูล 15 Nov 2013)

ลาว
มีรายงานตั้งแต่ Nov ปีที่แล้วว่า โครงข่าย 4G สามารถใช้ได้ในเมืองหลวงของลาว เวียงจันทร์ โดยผู้ให้บริการ Beeline และ Laotel อย่างไรก็ตาม การให้บริการนั้นดูเหมือนจะเป็นเพียงการทดลองให้บริการ เนื่องจากว่า จากรายงานแล้วมีการทดลองใช้ในช่วงการประชุม Asia-Europe Meeting Summit ครั้งที่ 9  กรุงเวียงจันทร์ วันที่ 5-6 Nov 2012จากนั้นก็หยุดการให้บริการ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการให้บริการ 4G อย่างเป็นทางการในประเทศลาว

มาเลเซีย
น่าทึ่งว่ามาเลเซียมี 4G ให้บริการบนพาหนะโดยผู้ให้บริการ Yes และ Proton แล้ว ไม่ต้องพูดถึงบนมือถือที่มีบริษัทโทรคมนาคม Celcom, Digi และ Maxis ให้บริการมาช้านาน ส่วน Telekom Malaysia กำลังเล็งที่จะให้บริการ 4G ภายในเดือน Feb ปีหน้า

เมียนมาร์
ปัจจุบัน รัฐบาลเมียนมาร์ให้สัมปทานแก่บริษัทโทรคมนาคมข้ามชาติสองรายคือ Telenor และ Ooredoo เมื่อเดือน June ปีนี้ โดยอนุญาตให้เริ่มพัฒนาโครงข่ายสัญญาณ แต่ที่น่าสนใจคือที่ได้สัมปทานนั้นนะ คือ 3G ดังนั้นเชื่อขนมกินได้ว่า 4G คงต้องรอไปอีกนาน อย่างไรก็ตาม IDC ประเมินว่าตลาดสมาร์ทโฟนของเมียนมาร์จะโตจากไม่มีเลยไปสู่ 6ล้านเครื่องภายในปี 2017

ฟิลิปปินส์
บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของฟิลิปปินส์มี 2บริษัทคือ Smart และ Globe โดย Smart เริ่มเปิดใช้งาน 4G ไปตั้งแต่เดือน Aug 2012และ Globe ตามรอยให้บริการตามมาในเดือน Oct ปีเดียวกัน ทั้งนี้ ในปี 2013บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่เล็งจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้ 4G โดยล่าสุดทั้งสองบริษัทออกผลิตภัณฑ์ SIM pre-paid เพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเติม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมอย่างรุนแรงในฟิลิปปินส์ (อ้างอิงข้อมูล 21 Aug 2012)

สิงคโปร์
สิงคโปร์ถือเป็นแชมป์มี 4G ใช้เป็นประเทศแรกของภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทแรกที่นำเข้ามาใช้คือ SingTel ขณะที่ M1 Limited เป็นบริษัทแรกที่สามารถขยายโครงข่ายไปทั่วประเทศได้ ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะนี้มีผู้ให้บริการ 4G ทั้งหมดสามบริษัทคือ Starhub, M1และ Singtel (อ้างอิงข้อมูล 5 June 2012)

ไทย
ประเทศนี้ช่างน่าสนใจเพราะแม้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะให้สัมปทาน 3G แก่สามบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่คือ Dtac, AIS และ TrueMove ไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อปีที่แล้ว แต่ปัจจุบัน กสทช. กลับยังไม่ประกาศวันประมูลคลื่นความถี่ 1800เมกกะเฮิร์ทซซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่ใช้รองรับบริการ 4G ให้ชัดเจนเสียที ความไม่ชัดเจนนี้ส่งผลให้เมื่อต้นปีนี้ TrueMove เริ่มให้บริการ 4G บนคลื่นความถี่ 2100เมกกะเฮิร์ทซซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใด TrueMove จึงให้บริการ 4G บนคลื่นความถี่เดียวกับ 3G และถือเป็นคลื่นความถี่ที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานสากลด้วย แต่ที่สุดแล้วประเทศไทยก็ถือว่ามีบริการ 4G ให้ได้ใช้จากบริษัท TrueMove กับเขาเสียที ถึงจะมีแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้นก็ตามทีเถอะ (อ้างอิงข้อมูล 8 May 2013)

เวียดนาม
เวียดนามยังไม่มีการให้บริการ 4G และมีแนวโมว่าจะต้องรอไปถึงปี 2015ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลจะเริ่มเปิดมอบสัมปทาน ซึ่งก็เหมือนกรณีของประเทศไทยที่ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องจะให้บริการบนคลื่น ความถี่ไหน



เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก marketingoops.com

 

ความรู้เพิ่มเติมเรื่องของการลงทุนการทำกำไรในตลาด Forex

การวิเคราะห์ทางเทคนิค เเละ การหาจังหวะเข้าทำกำไร